วันจันทร์, ตุลาคม 14, 2024

Leveraging Thai Scientific
Invention To Global Commercialization

ชุดทดสอบบอแรกซ์ (ผงกรอบ) ในอาหาร

ผงบอแรกซ์ เป็นสารอนินทรีย์สังเคราะห์ที่มีชื่อทางเคมีว่าโซเดียมบอเรต (Sodium borate) มีลักษณะเป็นผงสีขาวขุ่น คล้ายแป้ง หรืออาจมีลักษณะเป็นเม็ดกลมขุ่น ขนาดเล็กกว่าเม็ดสาคู มีคุณสมบัติละลายน้ำได้ดี มีรสชาติหวานเล็กน้อย

ในทางอุตสาหกรรมใช้ผงบอแรกซ์ในการผลิตแก้ว ภาชนะเคลือบ ชุบโลหะ เพื่อทำให้วัสดุทนทานความร้อนได้ดีขึ้น หรือใช้ในการผสมสูตรผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าเชื้อราเพื่อการดูแลรักษาเนื้อไม้ และใช้เป็นตัวประสานเชื่อมทอง เป็นต้น

ผลกระทบต่อสุขภาพ 

-เป็นพิษต่อไต

-ทำ ให้เกิดไตวายได้ 

-สะสมในสมอง 

-ทำให้ทางเดินอาหารเกิดการระคายเคือง 

-ถ้าเป็นผู้ใหญ่ได้รับสารบอร์แรกซ์ 15 กรัม หรือเด็กได้รับ 5 กรัม จะทำให้อาเจียนเป็นเลือดและอาจตายได้

กฎหมายกำหนด 

ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 151 (พ.ศ.2536) กำหนดให้บอแรกซ์เป็นสารที่ห้ามใช้ในอาหาร ผู้ฝ่าฝืนมีโทษให้ปรับไม่เกิน 20,000 บาท 

พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2544 กำหนดบอแรกซ์เป็นสินค้าควบคุมฉลากต้องมีข้อความ “บอแรกซ์อันตราย อาจทำให้ไตวาย ห้ามใช้ในอาหาร” ถ้าไม่มีฉลากหรือมีฉลากแต่การแสดงฉลากไม่ถูกต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท

การดูแลคุณภาพอาหารด้วยตนเอง 

การบริโภคอาหารที่มีสารบอแรกซ์เจือปนจะทำ ให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขจึงห้ามนำสารบอแรกซ์มาเจือปนในอาหาร แต่ปัจจุบันยังตรวจพบสารบอแรกซ์ในอาหารหลายชนิด ดังนั้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จึงได้พัฒนาชุดทดสอบบอแรกซ์ในอาหารขึ้น เพื่อให้สามารถนำไปตรวจสอบสารบอแรกซ์ในอาหารนอกห้องปฏิบัติการได้ ทราบผลได้รวดเร็วและมีความแม่นยำสูง

ตัวอย่างเป้าหมาย 

เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ (หมูบด ปลาบด ทอดมัน ลูกชิ้น หมูสด เนื้อสด ไส้กรอก ฯลฯ) ผลไม้ดอง ผลไม้แช่อิ่ม ผลไม้แห้ง ขนมหวานที่ทำจากแป้ง (ทับทิมกรอบ ลอดช่อง วุ้น ซาหริ่ม ฯลฯ) บะหมี่ แผ่นเกี๊ยว

ประโยชน์ของชุดทดสอบ

ใช้ตรวจสอบบอร์แรกซ์ในอาหารและสารเคมีที่ใช้ผสมอาหาร ซึ่งจะทราบผลได้ทันที เพื่อเป็นแนวทางเฝ้าระวังความปลอดภัยของอาหาร

จำนวนตัวอย่างที่ตรวจได้/ชุด

50 ตัวอย่าง

ความไวของชุดทดสอบ

ระดับต่ำสุดที่ตรวจได้ 100 มก./กก. (ในอาหาร)

ระดับต่ำสุดที่ตรวจได้ 50 มก./กก. (ในสารเคมี)

อุปกรณ์ชุดทดสอบ 

ก.อุปกรณ์ในชุดทดสอบ

-ถ้วยยาพลาสติก 1 ใบ 

-หลอดหยดยา 1 อัน 

-ช้อนพลาสติก 1 คัน 

-กระดาษขมิ้น (50 แผ่น) 1 ขวด 

-น้ำยาทดสอบบอร์แรกซ์ 1 ขวด 

-คู่มือชุดทดสอบ 1 แผ่น 

ข.อุปกรณ์ประกอบการตรวจ 

-เขียงพลาสติก 1 อัน 

-มีด 1 เล่ม 

-จานกระเบื้องหรือแผ่นกระจก 1 ชิ้น

วิธีการทดสอบบอร์แรกซ์ในอาหาร 

1.สับตัวอย่างให้เป็นชิ้นเล็กๆ เท่าหัวไม้ขีดไฟ 

2.ตักตัวอย่าง 1 ช้อน ใส่ในถ้วยยา 

3.เติมน้ำยาทดสอบบอแรกซ์จนท่วมตัวอย่าง กวนให้เข้ากัน 

4.จุ่มกระดาษขมิ้นให้เปียกครึ่งแผ่น 

5.วางกระดาษขมิ้นบนจานกระเบื้อง หรือแผ่นกระจก แล้วนำไปวางกลางแดดเป็นเวลา 10 นาที 

(อย่าวางกระดาษขมิ้นชิดกัน) หรือใช้ไดร์เป่าผมเป่า 1 นาที

วิธีการทดสอบบอร์แรกซ์ในสารเคมี 

1.ตักสารเคมีปริมาณเล็กน้อยใส่ในถ้วยยา 

2.เติมน้ำยาทดสอบบอร์แรกซ์ จำ นวน 5 มิลลิลิตร 

3.กวนให้สารเคมีละลาย 

4.จุ่มกระดาษขมิ้นในสารละลายให้เปียกครึ่งแผ่น 

5.วางแผ่นกระดาษขมิ้นลงบนแผ่นกระจกหรือจานกระเบื้อง แล้วนำไปวางกลางแดดเป็นเวลา 10 นาที หรือใช้ไดร์เป่าผมเป่า 1 นาที

การประเมินผล 

ถ้ากระดาษขมิ้นมีสีส้มจนถึงสีแดง แสดงว่า ตัวอย่างมีสารบอร์แรกซ์เจือปนอยู่

ถ้ากระดาษขมิ้นมีสีอื่นที่ไม่ใช่สีส้ม หรือแดง แสดงว่าตัวอย่างไม่มีสารบอร์แรกซ์ 

การปฏิบัติเมื่อใช้ชุดทดสอบบอร์แรกซ์เสร็จแล้ว 

เขียง มีด ถ้วยพลาสติก ช้อนพลาสติก แผ่นกระจก ให้ล้างด้วยผงซักฟอก และน้ำ ให้สะอาด ผึ่งให้แห้งก่อนที่จะนำไปเก็บในกล่องชุดทดสอบ

กระดาษขมิ้น ควรปิดฝาขวดทันทีเมื่อหยิบกระดาษขมิ้นออกมาแล้ว 

น้ำยาทดสอบบอร์แรกซ์ ปิดจุกขวดให้แน่นก่อนเก็บ 

หลอดหยอดยา ใช้หลอดหยอดยาดูดน้ำ สะอาดแล้วบีบทิ้ง ทำ ซ้ำ 3-4 ครั้ง ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วเก็บที่เดิม 

การเก็บรักษาชุดทดสอบ/อายุการใช้งาน 

-เก็บที่อุณภูมิห้อง / 2 ปี

-ดูวันหมดอายุที่กล่องบรรจุ

ข้อควรระวัง 

1. ถ้าตัวอย่างที่ตรวจมีสภาพเป็นด่างสูง (ข้าวต้มน้ำวุ้น, ปลาหมึกแห้งแช่ด่าง) อาจทำ ให้ เกิดผลบวกลวงได้ ต้องใส่น้ำยาทดสอบบอร์แรกซ์เพิ่มขึ้นจนแน่ใจว่าตัวอย่างหมดความ เป็นด่างแล้ว หรือ ทดสอบด้วยกระดาษลิตมัส จึงจะทดสอบด้วยกระดาษขมิ้นได้ 

2. หากใช้ที่เป่าผมในการทำกระดาษขมิ้นให้แห้ง ไม่ควรใช้ความร้อนสูง หรือเป่าใกล้กับกระดาษขมิ้นมากเกินไป เนื่องจากจะทำให้กระดาษเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลได้ ทำให้อ่านผลได้ไม่ชัดเจน และควรอ่านผลทันทีเมื่อกระดาษแห้ง เนื่องจากถ้าทิ้งไว้นานจะทำให้กระดาษมีสีเข้มเกินจริง 

3. ตัวอย่างบางชนิดอาจจะมีไขมันมาก เมื่อจุ่มกระดาษขมิ้นในตัวอย่าง ไขมันจะเคลือบที่ผิวของกระดาษขมิ้น ดังนั้นอาจมีเพียงบางส่วนที่เปลี่ยนสี ทำให้อ่านผลได้ไม่ชัดเจน จึงควรกำจัดไขมันออกจากกระดาษขมิ้น โดยการปาดกับปากถ้วยยาให้หมดก่อนนำมาทำ ให้แห้ง 

4. ต้องทำความสะอาดแผ่นรองกระดาษขมิ้นทุกครั้งก่อนนำ ไปใช้ตรวจตัวอย่างชุดต่อไป และไม่ควรวางแผ่นกระดาษขมิ้นในตำแหน่งที่เคยวางแผ่นกระดาษขมิ้นที่ตรวจตัวอย่างอื่นมาก่อนแล้ว และยังไม่ได้ทำความสะอาด เนื่องจากจะทำให้เกิดการปนเปื้อน และอ่านผลผิดพลาดได้ และควรทำเครื่องหมายที่แผ่นรองทุกครั้งที่วางกระดาษทดสอบ เพื่อป้องกันการสับสน 

5. สามารถใช้ชุดทดสอบตรวจได้ทั้งอาหารสด และอาหารที่ทำให้สุกแล้ว 

6. น้ำยาทดสอบบอร์แรกซ์ มีสภาพเป็นกรด หากหกเปื้อนมือหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายให้ล้างด้วยน้ำ และฟอกสบู่ให้สะอาด 

7. อย่าวางชุดทดสอบไว้ใกล้มือเด็ก แนวทางปฏิบัติเมื่อตรวจพบสารบอร์แรกซ์ในอาหาร แนะนำผู้ผลิตอาหารให้เลิกใช้สารบอร์แรกซ์ เนื่องจากผิดกฎหมายและเป็นอันตราย ต่อสุขภาพของผู้บริโภคอาหารนั้น ถ้าพบบ่อยครั้ง ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเก็บตัวอย่างส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการต่อไป

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ขอใบเสนอราคา สั่งซื้อสินค้า

บริษัท ไฮเออร์ เอ็นท์เตอร์ไพรส์ จำกัด
131 อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย อาคารกลุ่มนวัตกรรม 1
ต. คลองหลวง อ.คลองหลวง จ. ปทุมธานี 12120
โทร. 081-847-6768, 02-191-3928 แฟ็กซ์. 02-191-3929
คุณโทณิวัฒน์ 085-811-4779 , คุณนารีรัตน์ 085-814-9653
IDline : @alltestkit

>> ขอใบเสนอราคาแบบออนไลน์ คลิก !! <<

Related Articles

Latest Articles

PRODUCTS

Contact Us